เปิด 3 จุดปะทะสำคัญเกม แมนฯ ซิตี้ พบ ลิเวอร์พูล โดยหากทีมไหนปล่อยให้เกิดความผิดพลาดแค่นิดเดียว

ก็อาจถึงกับทำให้แพ้ได้เลยทีเดียวแมนเชสเตอร์ซิตี้จ่าฝูงพรีเมียร์ลีกอังกฤษมีโปรแกรมเปิดรังเอติฮัดสเตเดี้ยมต้อนรับการมาเยือนของลิเวอร์พูลองจ่าฝูคืนวันอาทิตย์ที่ 10 เมษายนนี้ (22.30 น.ตามเวลาในประเทศไทย)เกมนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการลุ้นแชมป์ เนื่องจากทีมของเป็ปวาร์ดิโอล่ามีคะแนนนำทีมของเจอร์เก้นคล็อปป์อยู่แค่แต้มเดียวเท่านั้นลังลงเล่นไป 30 เกมเท่ากันนัดนี้มี 3 จุดดวลกันในสนามที่สำคัญจนอาจตัดสินว่าทีมไหนจะได้ 3 แต้มดังนี้

ชูเอากานเซโล่ดาวเตะทีมชาติโปรตุเกสทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการลงเล่นเป็นแบ็กซ้ายให้แมนฯซิตี้ในฤดูกาลนี้โดยนอกจากมีเกมรับที่เหนียวแน่นแล้วยังเติมเกมบุกได้เยี่ยมรวมทั้งแอสซิสต์และยิงเองได้ดีด้วยขณะที่ซาลาห์ปีกทีมชาติอียิปต์ ยังได้รับความไว้วางใจากคล็อปป์ให้เป็นตัวจริงเหมือนเดิมแม้อยู่ในช่วงฟอร์มตกโดยยิงได้แค่5ประตูในลีกนับตั้งแต่เข้าสู่ปฎิทินปี 2022ก็ตามเกมนี้กานเซโล่อาจไม่ได้ขึ้นไปเติมเกมรุกอย่างที่ถนัดมากนัเนื่องจากไม่สามารถปล่อยให้ซาลาห์หลุดจากสายตาเพราะถ้าเผลอแค่นิดเดียวก็มีสิทธิ์จะโดนลงโทษทันทีนอกจากนั้นกานเซโล่ยังต้องระวังเทรนต์อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์แบ็กขวาจอมบุกของลิเวอร์พูลอีกคนด้วยขณะที่ “หงส์แดง”ก็ต้องไม่ปล่อยให้ฟูลแบ็กโปรตุกีสมีพื้นที่เล่นง่ายๆเช่นกันเควินเดอบรอยน์ มิดฟิลด์ทีมชาติเบลเยียม เป็นหัวใจในการเดินเกมรุกของ”เรือใบสีฟ้า”โดยมีการจ่ายบอลที่ยอดเยี่ยมขณะที่ลูกยิงไกลก็อันตรายสุดๆ

เกมนี้ เดอ บรอยน์ จะต้องดวลกับ ฟาบินโญ่ กองกลาง “หงส์แดง” ที่น่าจะได้ลงสนามเป็นตัวจริงคอยยืนเป็นตัวปัดกวาดบอล

ก่อนถึงแผงหลัง หลังมีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยจากเกมพบ เบนฟิก้า กลางสัปดาห์ที่ผ่านมาฟาบินโญ่ ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ตัวตัดเกมที่ดีที่สุดของวงการลูกหนัง ดังนั้นจึงไม่ใช่งานง่ายแน่ที่ เดอ บรอยน์ จะปั้นเกมสวยๆ ให้กับเพื่อนร่วมทีมนี่เป็นการต่อสู้กันของแบ็กที่ชอบขึ้นไปเติมเกมรุกทั้งคู่ โดยทั้ง ไคล์ วอล์คเกอร์ และ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ต่างเล่นได้อย่างคงเส้นคงวาให้กับ แมนฯ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล ตามลำดับ

วอล์คเกอร์ เป็นแบ็กที่เล่นเกมรับได้ดีและมีความเร็วขณะที่โรเบิร์ตสันก็เยี่ยมไม่แพ้กันแถมมีจิตใจสู้ไม่ถอยและสามารถวิ่งขึ้นลงได้แบบไม่มีหมดตลอดทั้งเกมอีกด้วยนี่จะเป็นอีกหนึ่งจุดปะทะที่สำคัญของเกมนี้ เพราะทั้งสองทีมต่างทำได้เยี่ยมในการเดินเกมริมเส้นแล้วเปิดบอลเข้ากลางโดยหากมีใครผิดพลาดปล่อยให้คู่แข่งเล่นงานก็อาจถึงแพ้ได้เลยทีเดียวอย่างไรก็ตามลิเวอร์พูลก็ตามมาติดๆ เป็นอันดับ 2 ในทั้ง 2 ด้านที่ว่าหลังจากพวกเขาปล่อยให้คู่แข่งได้ลุ้นประตูเฉลี่ยแล้วแค่ 8.23 ครั้งต่อเกมจนทำให้ตอนนี้เสียไปเพียง 20 ประตูเท่านั้น และตอนนี้ทั้ง 2 ทีมก็เก็บคลีนชีทได้มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของลีกร่วมกันด้วย ที่จำนวน 18 เกมลูกกลางอากาศแมนฯ ซิตี้ กับ ลิเวอร์พูล ไม่ได้โดดเด่นแค่ในด้านการต่อเกมบนพื้นเท่านั้น

พวกเขายังเล่นได้น่าประทับใจในด้านลูกกลางอากาศด้วยเพราะว่าตอนนี้ลิเวอร์พูลเป็นทีมที่มีเปอร์เซ็นต์ชนะการดวลลูกกลางอากาศมากที่สุดเป็นอันดับ 2ของลีกที่จำนวน 54 เปอร์เซ็นต์ส่วนแมนฯ ซิตี้ตามหายใจรดต้นคอที่ 53.9 เปอร์เซ็นต์โดยที่ 1 คือ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ทำไป 55.7 เปอร์เซ็นต์

ติดตามบทความข่าวสารอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ anteatersailing.com